วิธีปลูกกระบองเพชร ใคร ๆ ก็เลี้ยงได้ พร้อมเทคนิดทำให้ออกดอกสวย

การปลูกต้นกระบองเพชร ปลูกอย่างไรให้ออกดอก มาดูวิธีเลี้ยงและดูแลต้นกระบองเพชร พร้อมที่มาและความเชื่อการปลูกต้นกระบองเพชรในบ้าน 

ต้นกระบองเพชร หรือ แคคตัส (Cactus) พืชอวบน้ำที่เกือบทุกคนต้องรู้จัก เพราะมีหน้าตาน่ารัก สวยงาม ลำต้นเล็ก เลี้ยงง่าย วางไว้ตามโต๊ะทำงานก็ยังได้ แถมฮิตและโด่งดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องคอยไปหาซื้อต้นไม้ชนิดนี้อยู่เป็นประจำ ไม่เคยได้รู้ถึงวิธีปลูกของมันสักที วันนี้กระปุกดอทคอมนำการปลูกต้นกระบองเพชร การเลี้ยงและดูแล พร้อมด้วยเรื่องราวน่ารู้อื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้ชนิดนี้มาฝากกันค่ะ 
1. ที่มาและความเชื่อ

          กระบองเพชร มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Mila sp. ชื่อสามัญ Mila หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า แคคตัส (Cactus) มีข้อสันนิษฐานกันว่า เป็นพรรณไม้ที่เกิดขึ้นในยุค Tertiary ลักษณะของต้นกระบองเพชรในยุคนั้นมีลำต้น กิ่งก้าน และใบไม่ต่างจากต้นไม้ทั่วไป จนกระทั่งสภาพอากาศของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้กระบองเพชรต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด โดยเปลี่ยนรูปทรงของลำต้นให้มีขนาดเล็ก สูงเรียว สามารถเก็บน้ำได้มาก เปลี่ยนใบเป็นหนามเพื่อลดการคายน้ำและป้องกันสัตว์มากัดกิน และหยั่งรากตื้นเพื่อให้จับน้ำในอากาศได้ง่าย จึงทำให้ต้นกระบองเพชรสามารถเจริญเติบโตได้แม้ที่แห้งแล้งอย่างทะเลทราย

          ต้นกระบองเพชรส่วนใหญ่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ ก่อนขยายไปยังแอฟริกาและทั่วโลก ซึ่งบางสายพันธุ์นั้นก็มีการพัฒนาให้สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างเช่นในประเทศไทย ซึ่งมีชื่อเรียกกระบองเพชรอื่นว่า โบตั๋น หรือ ท้าวพันตา เชื่อกันว่าการปลูกต้นกระบองเพชรทิศตะวันตกจะนำโชคลาภมาให้ โดยเฉพาะผู้ที่สามารถปลูกกระบองเพชรให้ออกดอกสวยงามได้ และยังช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ป้องกันภัยอันตราย และเป็นที่เกรงกลัวของศัตรูอีกด้วย 

2. ลักษณะ

          กระบองเพชร เป็นไม้พุ่มยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงตั้งแต่ 30 เซนติเมตรขึ้นไป ลำต้นมีสีเขียวหรือเขียวคล้ำจากสารคลอโรฟิลล์ซึ่งใช้สังเคราะห์แสงแทนใบ มีทั้งทรงกลมเตี้ยและกระบอกสูง ขึ้นต้นเดี่ยวและแตกเป็นกอ

          สำหรับลักษณะของหนามมีทั้งแบบหนามแข็ง ปลายตรงหรืองุ้ม และแบบเส้นอ่อนคล้ายขนสัตว์ โดยสีของหนามขึ้นอยู่กับสายพันธุ์หรืออาจเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ

          ในขณะที่ดอกของกระบองเพชร แม้จะขึ้นได้ยาก แต่ก็มีความสวยงามไม่แพ้ดอกไม้ชนิดอื่น ๆ มีทั้งสีแดง ชมพู ขาว และเหลือง มักออกดอกเดี่ยว ๆ ไม่มีก้านดอก

          ส่วนของผลต้นกระบองเพชรก็มีหลากหลายรูปทรง ทั้งทรงกลม ทรงกระบอก รูปไข่ ผิวเปลือกเรียบ เป็นมัน เนื้อผลนุ่ม ใส คล้ายวุ่น มีหนามปกคลุมบางชนิด เมื่อผลแก่เต็มที่จะแห้งและร่วงลงดิน ในขณะที่ผลของบางสายพันธุ์เปลือกจะปริออกให้เมล็ดกระเด็นออกจากลำต้น

3. สายพันธุ์ของกระบองเพชร

          รู้ไหมคะว่ากระบองเพชรเป็นพืชที่มีสายพันธุ์มากกว่า 2,000 สายพันธุ์ โดยแต่ละสายพันธุ์ก็มีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกันออกไป แต่สามารถจำแนกเป็น 5 ประเภทหลักตามลักษณะของลำต้น ได้ดังนี้

          1. กระบองเพชรที่มีลำต้นและใบแบน (Flat-stem) เช่น สกุล Opuntia, Zygocactus, Epiplyllum

          2. กระบองเพชรพวกที่มีลำต้นเป็นหัวกลม ๆ (Globular-stem) เช่น สกุล As­trophytum, Thelocactus,Mam- millaria

          3. กระบองเพชรพวกที่มีกิ่งก้านคล้ายต้นไม้ทั่ว ๆ ไป (Branching-stern) เช่น สกุล Myrtillocactus Cereus, Pachy- cereus, Nopalxochia

          4. กระบองเพชรพวกที่มีต้นเป็นกระจุกหรือต้นเล็ก ๆ เหมาะสำหรับปลูกในกระถาง (Small cacti) เช่น สกุล Echinopsis, Ariocarpus, Neobesseya

          5. กระบองเพชรพวกที่เป็นเถาเลื้อยไต่ตามต้นไม้ กำแพง  (Climbingcacti) เช่น สกุล Echinocactus, Cornegiea, Trichocereus

4. การปลูกต้นกระบองเพชร

         การปลูกกระบองเพชรด้วยเมล็ด

          การปลูกกระบองเพชรด้วยเมล็ด ให้นำเมล็ดแก่หรือเมล็ดจากผลที่ปริแตก มาแช่น้ำ 2-5 นาที จากนั้นล้างเมือกออก แล้วตากแดดให้แห้งประมาณ 1-2 วัน พักไว้อีก 1-2 เดือน ค่อยนำมาปลูกลงในกระถาง โดยใช้ทรายหรือดินร่วนผสมกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก ในอัตรา 1:1 ส่วน ใส่ลงในกระถางพลาสติกเล็ก ๆ เพื่อทำการเพาะ ก่อนนำเมล็ดมาโรยแล้วเกลี่ยดินกลบเล็กน้อย ก่อนจะรดน้ำให้ชุ่มแล้วนำถุงพลาสติกมาหุ้มคลุมไว้ วางไว้ในที่ที่มีแดดรำไร พร้อมกับเช็กเป็นระยะ หากดินแห้งให้หมั่นรดน้ำเป็นประจำ หากพบว่าเมล็ดงอกเป็นต้นอ่อนได้ 2-3 วัน ค่อยย้ายไปปลูกในกระถางใหญ่ หากต้องการปลูกในแปลงเพื่อทำแนวรั้ว ให้ผสมดินร่วนกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก ในอัตราส่วน 3:1 แล้วขุดดินเพื่อปลูก ขนาดหลุมประมาณ 30x30x30 เซนติเมตร

5. ต้นกระบองเพชรกับการดูแล

           แม้ต้นกระบองเพชรเป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำมาก แต่ก็ต้องการน้ำต่อเนื่อง ฉะนั้นเมื่อต้นโตเต็มที่แล้ว ควรหมั่นให้น้ำอย่างน้อย 7-10 วันต่อครั้ง บำรุงด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 5-6 ครั้งต่อปี หมั่นตัดส่วนที่เป็นโรคทิ้ง สิ่งที่ต้องระวังในการปลูกต้นกระบองเพชรคือ ลำต้นเหี่ยว มีรอยย่น และแคระแกร็น โคนโยก รากเน่าเพราะความชื้นสูงเกินไป แต่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องศัตรูพืชเหมือนต้นไม้ชนิดอื่น ๆ

          ส่วนเคล็ดลับในการเลี้ยงต้นกระบองเพชรให้ออกดอกสำหรับการปลูกในบ้านก็คือ วางให้โดนแดดโดยตรงในช่วงที่กำลังโต ประมาณ 4-6 ชั่วโมงต่อวัน นอกเหนือจากนี้ก็วางกระถางในที่ที่มีแดดรำไร และหมั่นรดน้ำเป็นประจำเมื่อหน้าดินแห้ง โดยรดน้ำให้ชุ่มหรือให้น้ำซึมลงไปจากหน้าดินประมาณ 2 นิ้ว นอกจากนี้ก็หมั่นใส่ปุ๋ยอย่าให้ขาด โดยเป็นปุ๋ยที่ใช้สำหรับบำรุงแคคตัสเท่านั้น หรือเป็นสูตรปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสกับโพแทสเซียมสูงแต่ไนโตรเจนต่ำ หากมีการเปลี่ยนกระถางไม่ควรรดน้ำทันที แต่ให้เว้นไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนให้น้ำครั้งต่อไป 
6. ประโยชน์ต้นกระบองเพชร

          – กระบองเพชรเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะแปลกตา สีสันสวยงาม หลาย ๆ คนจึงนิยมนำไปปลูกประดับบ้านหรืออาคาร เช่น ตั้งบนโต๊ะทำงานหรือวางตามมุมห้องต่าง ๆ

          – ดอกและผลของต้นกระบองเพชรบางสายพันธุ์สามารถนำมารับประทานหรือประกอบอาหารได้ แต่ต้องกำจัดยางออกให้หมดก่อน

          – น้ำมันในเมล็ดของผลกระบองเพชรสามารถนำมาเป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอางได้

          – สารสกัดจากต้นกระบองเพชรมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ทั้งวิตามินเอ วิตามินซี ไฟเบอร์ อีกทั้งยังช่วยลดการดูดซึมไขมัน ลดคอเลสเตอรอล และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย

          – หนามที่มีลักษณะแหลมคล้ายเข็มของกระบองเพชรสามารถนำมาเย็บแผลได้ แต่ต้องผ่านการฆ่าเชื้อที่สะอาดด้วยวิธีการที่ถูกต้อง

          – สามารถดื่มน้ำในลำต้นของกระบองเพชรแก้กระหายเมื่อขาดแหล่งน้ำ อย่างเช่นกลางทะเลทรายได้

แนะนำบทความเพิ่มเติม

: ต้นไม้เสริมดวงประจำวันเกิด

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *