ทำความรู้จัก มอนสเตอร่า ราชินีไม้ใบ ปลูกประดับบ้านได้ แถมสร้างกำไรงาม

เรียกได้ว่าสร้างความฮือฮาให้กับวงการคนรักต้นไม้น้อยเลยทีเดียว ที่ก่อนหน้านี้มีคนขายต้นมอนสเตอร่าในราคา 1.4 ล้านบาท และล่าสุดก็ได้มีการเปิดประมูล มอนสเตอร่า ฟูลมิ้นต์ ตอนนี้ราคาพุ่งไปแตะ 2.4 ล้านบาท

ลักษณะมอนสเตอร่า

มอนสเตอร่า (Monstera, Swiss Cheese Plant) หรือที่เรียกทั่วไปว่า พลูฉีก หรือ พลูแฉก มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกากลาง พบมากในป่าดิบชื้น เป็นต้นไม้ในวงศ์ Araceae มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Monstera deliciosa Liebm. ลักษณะลำต้นเป็นข้อสั้น จัดอยู่ในกลุ่มไม้เลื้อย สามารถเลื้อยได้ไกล 4 เมตร มีจุดเด่นที่ใบเดี่ยวขนาดใหญ่ โคนใบเว้าลึกเป็นรูปหัวใจ ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบหยักลึกเกือบถึงเส้นกลางใบ 5 แฉก ใบหนาผิวมัน มีทั้งสีเขียวเข้มและใบด่าง ออกดอกตามซอกใบ มีผลสีเขียว จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเมื่อผลสุกและส่งกลิ่นแรง

ทำไมมอนสเตอร่าเป็นที่นิยมในไทย

มอนสเตอร่า กลายเป็นต้นไม้อีกหนึ่งชนิดที่คนไทยเริ่มหันมาปลูกกันเยอะในช่วง 1-2 ปีนี้ โดยเฉพาะช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมา รวมถึงได้รับกระแสความนิยมในหมู่คนวงการบันเทิง พร้อมกับความสวยแปลกตาที่เป็นเอกลักษณ์ของ มอนอร่า ที่สามารถปลูกประดับบ้านได้ แถมยังช่วยดูดซับสารพิษอันตรายในอากาศ ทั้งฟอร์มาลดีไฮด์ เลยส่งผลให้ มอนสเตอร่า กลายเป็นต้นไม้ยอดนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบันนั่นเอง

สายพันธุ์มอนสเตอร่า

ต้นมอนสเตอร่ามีมากกว่า 50 สายพันธุ์ แต่ที่นิยมนำมาปลูกประดับบ้านมีประมาณ 3 สายพันธุ์ ดังนี้

  • มอนสเตอร่า เดลิซิโอซ่า (Monstera Deliciosa) : หรือเรียกง่าย ๆ ว่า มอนสเตอร่า ไจแอนท์ มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโก มีลักษณะเด่นที่ใบขนาดใหญ่ตามชื่อ ขอบใบแตกเป็นแฉกสวยงาม ลำต้นตรง ขยายพันธุ์ง่าย ดูแลไม่ยาก หากโตตามธรรมชาติ อาจพบลำต้นที่มีความสูงถึง 20 เมตร และใบขนาดใหญ่ถึง 2 เมตร
  • มอนสเตอร่า บอร์สิเจียน่าอัลโบ (Monstera Borsigiana Albo) : หรือ มอนสเตอร่าด่าง แตกต่างกับสายพันธุ์แรกตรงที่ใบมอนสเตอร่าด่างจะมีสีขาวหรือเขียวอ่อนปนบนผิวใบ ซึ่งเกิดจากการสร้างคลอโรฟิลล์ไม่สมบูรณ์ และทำให้เกิดเป็นลายสวยงาม รวมถึงมีราคาสูงขึ้น
  • มอนสเตอร่า อะแดนโซนี่ (Monstera Adansonii) : หรือ พลูฉลุด่าง อีกหนึ่งสายพันธุ์หายากและเป็นที่ต้องการของนักสะสม โดดเด่นด้วยใบฉลุมาพร้อมลายด่างสีขาว โตไวในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

วิธีดูแลมอนสเตอร่า

มอนสเตอร่า เป็นต้นไม้ที่ชอบแสงแดดปานกลาง หากจะปลูกในบ้านควรวางไว้ในที่มีแดดรำไร เลี่ยงพื้นที่ที่โดนแสงแดดแรงโดยตรง แล้วรดน้ำสัปดาห์ละครั้ง โดยเพิ่มความถี่ในการรดน้ำช่วงหน้าร้อนหรือเมื่อดินแห้ง และลดปริมาณการให้น้ำลงมาในช่วงฤดูฝน หรือเมื่อเห็นว่าดินยังชุ่มหรือเวลาที่มีความชื้นสูง เพราะหากรดน้ำน้อยหรือมากเกินไปจะทำให้เกิดโรคใบไหม้และใบเหลืองได้

แนะนำบทความเพิ่มเติม

: กล้วยด่าง ต้นไม้สีสวย ลายแปลก น่าปลูกประดับบ้าน แถมสร้างรายได้ไม่เบา

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *